แล้วแม่ จะกอดใคร?
คอลัมภ์ " คิดเล็กคิดน้อย " โดย คุณอั๋น ภูวนาท คุนผลิน นิตยสารแพรว ฉบับที่ 664 " แล้วแม่ จะกอดใคร "
คุณอั๋นเล่าเรื่องของครอบครัวหนึ่ง ที่ไปส่งลูกชายที่สนามบินค่ะ
"...สายตาของผมไปสะดุดกับครอบครัวเล็กครอบครัวหนึ่งเข้าน่าจะเป็นคนจีนพ่อ-แม่-ลูก.... ภาพที่เห็นนั้นคุณลูกตัวใหญ่ซึ่งอายุน่าจะเฉียดสามสิบได้กำลังกอดเอวฟุบหน้าอยู่กับตักของแม่ ร้องไห้จนตัวสั่นไปหมด .....แม่เอามือลูบหัวลูกชาย ราวกับเขายังคงเป็นเด็กน้อยตัวเล็กคนเดิมเบา ๆด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น แต่ฉายแววเศร้าอยู่ในทีในขณะที่คุณพ่อได้แต่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ มือกอดอกบ้าง ล้วงกระเป๋าบ้าง
เวลา ผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้แต่คงนานพอที่จะทำให้คนทั้งสามต้องเริ่มต้นบอกลากันจริง ๆ สักที...ลูกชายคลายกอดจากแม่... ค่อย ๆ ยืนขึ้นช้า ๆ น้ำตานองหน้าเขาสวมกอดผู้หญิงที่สูงเกือบไม่ถึงไหล่คนเดิมตรงหน้าอีกครั้ง ...เป็นกอดที่แม้จะเนิ่นนานและแน่นแค่ไหน ก็เหมือนกับมันดูจะสั้นเกินไปอยู่ดีลูกชายเช็ดน้ำตาแล้วหันกลับมามองพ่อ เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อยและกอดกันหลวมๆ พร้อมตบไหล่กันเบา ๆ พอเป็นพิธี
ก่อน จะลาจากกันไป เขากอดแม่อีกครั้งอย่างอาลัยอาวรณ์แล้วเดินถอยหลังขึ้นบันไดเลื่อนไป แม่ยังคงยืนมองดูลูกค่อย ๆเลื่อนไกลออกไปอย่างสงบนิ่ง ยกมือขึ้นโบกลาช้า ๆ...ในขณะที่พ่อเริ่มเดินก้มๆ เงยๆหาทางมองให้เห็นลูกที่ตอนนี้อยู่นไกลจนเกือบลับสายตาอย่างลุกลี้ลุกลน
ผมนึกในใจขึ้นมาอย่างสงสัยว่า " ผู้หญิงคนนี้ช่างใจแข็งจริงที่ไม่ร้องไห้เลยสักนิด "
...และแล้วภาพอันน่าแปลกใจที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็น ก็เกิดขึ้นตรงหน้า ...ในวินาทีที่ลูกชายได้ลับสายตาทั้งคู่ไปแล้ว ผู้ชาย ที่เมื่อครู่ยืนอยู่ห่างๆ กอดอกนิ่ง ๆ มองไปทางอื่นเหมือนไม่ค่อยจะสนใจภาพที่อยู่ตรงหน้าของลูกชายกับหญิงผู้เป็นแม่เท่าไรนักโผเข้ากอดภรรยาแล้วร้องไห้ออกมาอย่างมากมาย...จนผู้หญิงคนเดิมที่ตอนนี้เปลี่ยนจากหน้าที่ของแม่มาเป็นภรรยาแล้วนั้นต้องหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยซับน้ำตาให้ แล้วกอดเขาพร้อมตบไหล่เบา ๆราวกับกำลังปลอบเด็กน้อยคนหนึ่งที่อยู่ในร่างของชายสูงอายุ...

ผมคิดถามตัวเองเล่น ๆ ไปว่า ถ้าวันนี้เธอคนนั้นร้องไห้ขึ้นมาบ้างล่ะ จะเหลือใครแข็งแรงพอให้เธอกอดบ้าง ?...
ผม เคยเหนื่อยล้า ท้อแท้ อ่อนแรงมาหลายครั้ง...สิ่งที่ผมทำทุกครั้งคือเดินเข้าไปกอดแม่แน่น ๆ แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลช้า ๆหรือในบางครั้งก็แค่กอดแน่น ๆ แล้วกัดฟันทำฟอร์มดี ยิ้มแหย ๆไปว่าไม่มีอะไรหรอก แค่อยากกอด แล้วค่อยแอบไปร้องไห้คนเดียวในห้องทีหลังเป็นแบบนั้นมาร่วมสามสิบปีแล้ว
แต่วันนี้กับภาพที่เห็นเมื่อครู่เป็น วันแรกที่ทำให้ผมเกิดคำถามขึ้นในใจว่า....แล้วผู้หญิงที่ผมรักที่สุดในโลกล่ะคนที่มีรอยยิ้มให้กับทุกคนในครอบครัวอย่างไม่มีวันหมดรอยยิ้มที่หลายครั้งต้องซ่อนความเหน็ดเหนื่อยของตัวเองไว้เพื่อซึมซับความเจ็บช้ำให้กับคนที่เธอรัก.... ผู้หญิงตัวนิ่ม ๆที่อ้อมกอดของเธอเยียวยาได้ตั้งแต่ แผลถลอกหกล้มที่หัวเข่า...จนถึงหัวใจที่แตกสลาย ... ในวันที่เธออ่อนล้า ผมแข็งแรงพอที่จะยืนให้เธอกอดบ้างไหม ?
ผม เชื่อว่า เราส่วนใหญ่คงไม่ลืมกันหรอกที่จะบอกให้ผู้หญิงคนนี้รู้ว่าเรารักและเราก็มักพูดเตือนกันเสมอ ๆ อยู่แล้วว่า อย่าลืมกอดแม่บ้างนะวันนี้ผมขอเพิ่มอีกอย่างแล้วกันว่า.... อย่าลืม ให้แม่กอดคุณบ้างนะครับเพราะเธอก็อาจต้องการมันไม่น้อยไปกว่าคุณหรือใคร.. "
http://www.lovehealthy-beauty.com/index.php?topic=430.0