ถ้าฉันเป็น . . . " น า ย ก รั ฐ ม น ต รี "
กินพื้นที่กว่า 30 จังหวัดหรือเกือบครึ่งประเทศ
ผู้คนเดือดร้อนหลายล้านคน
เป็นเวลายาวนานเกือบหนึ่งสัปดาห
?. ฉันจะ
ฉันจะสั่งทำถุงยังชีพ ให้ข้างถุงเขียนว่า "มาจากภาษีประชาชน" ไม่ต้องให้ใครได้ "เอาหน้า" เพราะประชาชนเป็นคนทำงานเสียภาษ
ฉันจะจัดตั้ง "ศูนย์กลางแก้วิกฤติ" อย่างด่วนที่สุด ไม่รอให้เนิ่นช้ากว่า 7 วัน ไม่ปล่อยให้ "รัฐบาล" ซึ่งกินภาษีประชาชน ทำงานเชื่องช้ากว่าประชาชนด้วยก
ฉันจะเอา "ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุ
ฉันจะตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าศูนย
ฉันจะไม่ตั้งที่ปรึกษาฯของฉันซึ
ฉันจะเอาข้อมูลทั้งหมดมาประมวลใ
ฉันจะต้องรู้ด้วยว่าพื้นที่ไหนบ
และที่สำคัญคือ เมื่อไหร่ทุกอย่างจะคลี่คลาย
พื้นที่ไหนกำลังเดือดร้อน ฉันจะจัดแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ (แดง เหลือง เขียว) ฉันอยากรู้ด้วยว่าในพื้นที่แต่ล
ฉันจะกำหนดให้ศูนย์กลางแก้วิกฤต
ศูนย์กลางของฉันจะต้องทำหน้าที่
เงินทองที่เบิกจ่ายต้องโปร่งใสร
ประมวลข้อมูลจากภาคสนามอย่างทัน
และประสานรับ "น้ำใจ" จากภาคเอกชนอย่างเป็นระบบ
ดังนั้น ศูนย์ของฉันจะมีข้อมูลรายละเอีย
ตำบลใดรับข้าวสารไปหุงกินเองได้
เส้นทางไหนต้องใช้เรือ ใช้กี่ลำ มีคนติดอยู่แถวนั้นกี่คน
ฉันจะรู้ด้วยว่าถึงนาทีนี้ข้าวส
แจกจ่ายไปจุดไหนบ้างแล้ว ไปถึงที่หมายช้าเร็วแค่ไหน
มีใครได้เกินความจำเป็นหรือไม่ มีใครที่ขาดแคลนอย่างหนักแต่ยัง
เงินบริจาคทุกบาทจะต้องทำบัญชี แสดงที่มาที่ไป หน่วยงานไหนรับบริจาคมาเท่าไหร่
อ้อ .. ฉันจะแจ้งให้กลุ่ม "ชาตินิยม" ทั้งหลายทราบด้วยว่า ตอนนี้แหละคือเรื่องของ "ชาติ" จริงๆ เพราะมันคือเรื่องของคนตัวเป็นๆ
ฉันจะต้องรู้ด้วยว่า "พื้นที่ปลอดภัย" ในแต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัดนั้นมีที่ไหนบ้าง จุดไหนที่สามารถอพยพผู้คนเข้าไป
ฉันจะจัดทำแผนอพยพที่ชัดเจน จะไปเส้นทางใด ใช้พาหนะใด ใช้เวลาเดินเท่าไหร่ และที่สำคัญ วันนี้ปลอดภัยแล้วพรุ่งนี้จะปลอ
ดังนั้นหากรู้ว่า น้ำกำลังไหลจาก อำเภอ ก. ไป อำเภอ ข. ภายใน 12 ชั่วโมง ฉันจะได้สั่ง "อพยพ" ผู้คนได้ล่วงหน้า ทันเวลา ไม่ใช่เพียงแต่ทำงาน "ตามปัญหา"
ด้วยความที่ฉัน (และศูนย์กลางของฉัน) มีข้อมูลครบถ้วนรอบด้าน เห็นภาพกว้างที่สุด ฉันจะสามารถ "ประสาน" แนวทางการทำงานของแต่ละกลุ่ม ทั้งส่วนราชการต่างๆ หรือส่วนเอกชนอย่างอาสาสมัครกู้
ทุกคนจะได้ทำงานไปใน "ทาง" เดียวกัน เป้าหมายเดียวกัน และได้ประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ซ้ำซ้อน ลักลั่น ไร้ทิศทาง
ฉันเชื่อว่าในสภาวะวิกฤติเช่นนี
เรือที่ออกไปแจกข้าวสาร สามารถใช้ไปรับคนป่วยได้เช่นกัน
เราเพียงต้องรู้ให้ชัดว่าเมื่อไ
ซึ่งการจะทำอย่างนั้นได้ มันต้องมีข้อมูลมุมกว้าง และต้องตัดสินใจอย่างจากภาพรวม?
สำหรับพื้นที่ไหนที่น้ำยังไปไม่
พื้นที่ไหนน้ำเริ่มลดแล้ว ฉันจะเร่งช่วยเหลือประชาชน ซึ่งไม่ได้หมายถึงการ "แจกเงิน" อย่างมักง่ายเพียงอย่างเดียว เพราะฉันรู้ดีว่าเงินมีจำกัด และในสภาวะฉุกเฉินนั้น เงินอาจไม่ต่างจากกระดาษปึกหนึ่
ฉันจะเร่งช่วยเหลือประชาชนในช่อ
ฉันจะทำงานด้วยสำนึกในกะโหลกว่า
ผู้นำประเทศไม่ได้มีหน้าที่เพีย
ฉันรู้ดีว่าแนวทางเช่นนี้สำคัญม
เพราะจะว่าไป "น้ำท่วม" อาจเป็นภัยพิบัติที่ "เบา" ที่สุดแล้ว หากเทียบกับ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ หรือ ไวรัสระบาด
ฉันจะไม่ออกเดินทางพร่ำเพรื่อ หรือหากจะออกภาคสนาม ก็จะใช้ทรัพยากร (เช่น เจ้าหน้าที่ หรือ ยานพาหนะ) อย่างน้อยที่สุด เพราะสิ่งเหล่านั้นควรถูกนำไป "แก้ปัญหา" มากกว่ามาดูแลฉัน
ฉันจะพูดให้น้อย ทำงานให้มาก พูดเฉพาะเรื่องสำคัญๆ
เพราะรัฐบาลของฉันมีโฆษกกินเงิน
ฉันไม่อยากไปแย่งงานเขา ?.
**หมายเหตุ: คัดลอกจากเรียงความของนักเรียน ป.4 คนหนึ่ง ซึ่งเขียนส่งอาจารย์เป็นการบ้าน
http://www.roodthanarak.com/20
Photo:google
***** ป ล ********
เ รี ย น ทุ ก ท่ า น . ..
กรุณาแสดงความเห็นด้วยความสุภาพ
___
.
โดย:?Maserati Aston Martin