ไปมาล่ะ(โคตระปวดขา)

ผู้ร่วมทริปครับ หนึ่งแฝดพี่ หนึ่งไทรตัน ที่บ้านร่มเกล้า สี่

ที่พักในตัวเมืองอุ้มผาง อยู่ข้างลำน้ำ เย็นนี้ขอนอนก่อนล่ะ ฟังเสียงน้ำไหล ที่อิงดอยรีสอร์ท

น้ำไหลเอื่อยๆ

ชมผาชมป่ากันไป

แก่งแรกๆ ไม่เท่าไหร่นะว่ามใั้ย

น้ำตกเล็กๆ

อันนี้น่าจะเร้าใจสุด

ผบ ผมเองกับอุปกรณ์ประกอบการล่องแก่ง

ผาคนมอง เห็นมั้ยเขานั่งมองเราอยู่ เป็นแบบนี้มาหลายพันปีแล้ว ว่าแล้วก้อน่าสงสาร น่าจะมีคนไปเปลี่ยนบ้างนะ

หนีลูกมานะครับเนี่ย ถ้ามันมาด้วยจ้างก้อไม่ได้ใกล้กันแบบนี้หรอก

นี้คือชื่อของทริป ทีลอเล น้ำตกที่ไหลลงโขดหินนั่นแหละ แต่ มิใช่ไฮไลท์ของงานนี้นะ

นี่ต่างหากที่อยากนำเสนอ ไกด์บอกว่า น้ำตกบุญล่ำ(ตาลุงบุญล่ำไปเจอก่อนใครๆ) แต่ผมเคยอ่านในเนตเขาว่ามันชื่อน้ำตกขั้นบรรได



น้ำเย็นโคตร เราถือโอกาสอาบน้ำสำหรับวันนี้ไปเลย

อีกมุม

เล่นน้ำหนำใจแล้วก้อต้องกลับที่กางเตนท์ ต้องพาเรือทวนน้ำนะครับ อันนี้เป็นงานหนักสำหรับ ทีมงานคนนำทางเลยแหละ

หลังพายทวนน้ำมาสักพักก้อต้องเดินริมตลิ่ง เลยได้ภาพนี้มาฝาก

ที่ที่เราจะนอนกันคืนนี้ ตะว่าช้างที่ขนเครื่องนอน อาหาร เครื่องครัว เสื้อผ้า ยังมาไม่ถึง

มาแล้วๆ



เมนูเด็ดเย็นนี้ อร่อยเเต่เคีัยวเพลินไม่ได้

พ่อครัวและ หัวหน้าไกด์ เจ้าของสโลแกน มีเรื่องเล่าถ้ามีเหล้า ถ้าเหล้าหมดก้อหมดเรื่องเล่า นามว่า แม็ก

อาหารเย็นของเรา ไม่อยากถ่ายตอนกินเสร็จ บอกตรงๆเขิล

จะว่าอร่อยก้อได้จะว่าเพราะหิวก้อไม่ว่ากัน ใต้เเสงเทียน

ที่นอนสำหรับคืนนี้ ฝนอย่าตกนะ

ลาก่อนทีลอเล

นี่แหละเพราะความเป็นผู้ชาย ก้อต้องให้ สุภาพสตรีนั่งช้าง ส่วนเราเดิน เห็นข้างหน้านั่นมั้ย เราต้องเดินขึ้นเขาแบบชันๆประเภทใช้ทั้งตีนและมือตะกายอ่ะ ไปประมาณ สี่สิบนาที บอกตรงๆเหนื่อยสุด จนไม่มีอารมย์ถ่ายภาพมาให้ดู

หลังจากสี่สิบนาทีแรกที่ขึ้นเขาแนวดิ่งตลอด จากนั้นก้อเดินเรียบๆสลับขึ้นเนินลงเนินเรื่อยมา จนมาพักเที่ยงกินข้าวกันตรงนี้ ผมนี้ถอดผ้าโดดน้ำเลย

แล้วช้างก้อมาทันเรา

จากจุดพักเที่ยง ก้อเดินกันต่อ เดินบนยอดเขา ข้างลำธาร ขึ้นเนินเล็กๆ ลงเนินยาวๆ จนมาทะลุตรงนี้ สี่โมงเย็น นี้คือจุดที่รถจะมารับเรา


หกโมงเย็นถึงรีสอร์ท งานนี้สาหัส หัวเข่าเหมือนจะหลุดออกจากกัน

ตอนเช้าก้อเกียมตัวกลับ ก่อนจากต้องมีภาพนี้มาทุกๆครั้ง

นี่เจ้าของไทรตัน

คู่นี้แฝดพี่สีขาว
เฉพาะค่าทริปล่องแก่งทีลอเล หัวละ สามพันบาท ในนี้มี นอนรีสอร์ทสองคืน พร้อมอาหาร นอนป่าหนึ่งคืน ค่าเรือหนึ่งลำ ช้างสองเชือก ถ้าจะเพิ่มช้างอีกคิดเชือกละสองพันห้า ถ้าเพื่อนๆจะไปแบบเราก้อแนะนำนะครับได้หลายรสชาดดี ควรออกกำลังขาเตรียมก่อนอย่างน้อยสักสองอาทิตย์ แต่ถ้าใครทำงานที่ต้องเดินบ่อยๆในแต่ละวันก้อไม่ต้องก้อได้ แต่ผมเองปกติไม่ค่อยออกกำลังกาย เดินก้อไม่ค่อยได้เดิน ก้อเลยค่อนข้างสาหัส แต่ก้อเอาตัวรอดได้ อาศัยใจล้วนๆ บางกลุ่มเดินกันแบบมืดในป่าก้อมี อันนั้นลำบากสุด สนุกครับโดยเฉพาะตอนอาบน้ำตกขั้นบรรได ภาพที่ถ่ายมายังไม่ได้ทุกมุม ทำให้ไม่เข้าอารมย์เหมือนดูด้วยตา ท้าให้ไปกันครับ ทริปหน้าไปไหนจะหามาฝากอีกครับ