อาหารดี ก่อกำเหนิดสุขภาพที่ดี
ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรงกับอาหาร 15 ชนิดที่คนทำงานไม่ควรพลาด ในช่วงของวัยทำงานอาจต้องพบเจอกับความเครียด ความเหนื่อยล้า และความอ่อนเพลีย การรับประทานอาหารเสริมที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพร่างกาย จะเป็นตัวช่วยผลักดันให้เรามีแรงกระตุ้นในการทำงาน ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่มีอยู่ใกล้ตัวและราคาไม่แพง ลองมาดูกันว่ามีอาหารอะไรบ้างที่เหมาะกับคนทำงาน ให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอยู่ตลอดเวลา มาดูกันว่าอาหาร 15 ชนิดมีอะไรกันบ้าง....
1.ข้าวกล้อง ข้าวกล้องมีวิตามินบีและอีสูง จึงช่วยเพิ่มพลังสมองในการทำงานช่วยป้องกันโรคเหน็บชาที่คนที่ต้องนั่งโต๊ะทำงานนาน ๆ มักจะเป็นกัน แถมยังป้องกันโรคสมองเสื่อมในอนาคตได้ด้วย
2.วิตามิน บี ซึ่งอีกชื่อหนึ่งว่า “สารให้ความกระปรี้กระเปร่า” มีอยู่ในข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท จมูกข้าว ถั่ง เมล็ดทานตะวัน นม กล้วย ส้ม เป็นต้น ใครที่ทำงานนานจนอ่อนล้าห้ามพลาด
3.วิตามินซี ที่อยู่ในผักและผลไม้ เช่น ฝรั่ง สตอรเบอร์รี่ น้ำส้มคั้น มะละกอ บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี ถั่วงอก ฯลฯ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากในการสร้างฮอร์โมนระงับความเครียดจะได้ทำงานอย่างสดใสไปทั้งวัน
4.น้ำมันปลา หรือโอเมก้า 3 ช่วยป้องกันโรคหัวใจไขข้ออักเสบ ช่วยลดอาการปวดรอบเดือนและระงับอาการซึมเศร้าเบื่อหน่ายจากการทำงานได้ด้วย
5.ผักใบเขียว อย่างตำลึง คะน้า เป็นอาการกลุ่มโครินที่มีวิตามีนบี ซึ่งช่วยเพิ่มความจำและสมาธิ
6.น้ำเปล่า ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน เพื่อป้องกันอาการอ่อนเพลียและการเป็นตะคริวจาการนั่งหรือยืนนาน ๆ แถมยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสด้วย สาว ๆ ที่ทำงานในห้องแอร์ตลอดวันยิ่งควรดื่มบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้ผิวแห้ง
7.น้ำใบบัวบก ทำงานมาทั้งวันช่วงบ่าย สาว ๆ ก็คงจะเพลียขอแนะนำให้ดื่มน้ำใบบัวบกเพราะเป็นน้ำเพิ่มพลังชั้นยอด เป็นยาบำรุงแก้อ่อนเพลียช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เสริมสร้างความจำและช่วยให้สมองทำงานได้ดีด้วย
8.ของหวาน ของเปรี้ยว หลังอาหารกลางงวัน จะทำให้คงความสดชื่นได้ยาวนานขึ้น เพราะรสเปรี้ยวและรสหวานนั้น จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นในร่างกาย ยิ่งตอนบ่าย ๆ อาจจะง่วงผลไม้รสเปรี้ยว คือคำตอบของคุณ ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงหรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่าง ๆ จะกระตุ้นให้สาว ๆ กระปรี้กระเปล่าขึ้นได้
9.ถั่ว ยิ่งคนที่ต้องใช้สายตาเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืองานที่ต้องใช้สายตานาน ๆ ควรมีถั่วติดโต๊ะไว้ด้วย เพราะถั่วมีวิตามีนบี 2 บำรุงสายตาได้ดี
10.วิตามีนซีและธาตุเหล็ก เพราะเวลาที่มีรอบเดือนร่างกายจะขาดธาตุเหล็ก ทำให้เหนื่อยง่าย หงุดหงิด ไม่มีสมาธิ ช่วงนั้นของเดือนจึงเป็นเวลาที่สาว ๆ อย่างเราต้องทานวิตามินซีและธาตุเหล็กมาก ๆ วิตามินซีจะช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น
11.ชาเขียว นอกจากจะทำให้ลมหายใจสดชื่นไม่มีกลิ่นปากแล้ว ถึงชาเขียวที่ทานแล้วยังช่วยลดมลพิษในห้องทำงานได้ด้วย แค่วางทิ้งไว้เฉย ๆ มันก็จะดูดฝุ่นละอองให้เราเอง ทำให้ลดการเป็นภูมิแพ้ไปโดยอัตโนมัติ
12.ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัดให้มื้อเช้า เพราะในตอนเช้าร่างการของเรายังปรับตัวไม่ทันกับรสชาติเผ็ดร้อน เช้า ๆ ควรทานเป็นอาหารรสกลาง ๆ ไปก่อนจะดีกว่า
13.ดื่มน้ำผลไม้ 1 แก้ว ก่อนจะดื่มกาแฟควรดื่มน้ำผลไม้ก่อน 1 แก้ว เพราะการดื่มกาแฟโดยที่ไม่มีอะไรรองท้องจะช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าได้ ไม่นาน หลังจากนั้นจะกลับมาง่วงเหมือนเดิม และไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 3 แก้วต่อวัน เพื่อไม่ให้ได้รับคาเฟอีนมากเกินไป
14.งดชากาแฟในเวลาเย็น เพราะอาจทำให้นอนไม่หลับส่งผลให้สมองพักผ่อนไม่เพียงพอ พอตื่นขึ้นมาสมองก็จะล้า คิดอะไรไม่ออกส่งผลต่อการทำงานได้ไม่เต็มที่
15.หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มและมันใจในมื้อเที่ยง เพราะอาหารที่มีไขมันสูงหรือเค็มจะทำให้เกิดการสะสม มีผลให้ร่ายกายเคลื่อนไหวช้า ขาดความคล่องตัวในการทำงาน….
จากข้อที่ 1- 15 เป็น หลักง่ายๆ ที่ อาจจะแคยรับรู้ กันมาบ้าง ครับ แต่ก็ ต้องบอกว่า น้อยคนครับ ที่ จะทำใด้ ครบทุกข้อ
สองมาสำรวจตัวเองกัน ครับ ว่า ปฏิบัติใด้จริง คนละ กี่ข้อ ..
กลุ่มเรื่อง #รักสุขภาพ