กิจกรรมที่ทำ 1 ชั่วโมง เผาผลาญกี่แคลอรี่
นั่งดูทีวี 100 แคลอรี่
ยืน 140 แคลอรี่
ปูที่นอน 135 แคลอรี่
ทำงานบ้าน 150-250 แคลอรี่
เดินเล่น 210 แคลอรี่
กวาดพื้น 225 แคลอรี่
ตัดหญ้า 250-300 แคลอรี่
ทำสวน 300-450 แคลอรี่
เดินช้า 150 แคลอรี่
เดินธรรมดา 300 แคลอรี่
เดินเร็ว 420-480 แคลอรี่
เดินลงบันได 425 แคลอรี่
เดินลงเนิน 240 แคลอรี่
เดินขึ้นบันได 600-1080 แคลอรี่
เดินขึ้นเนิน 480-900 แคลอรี่
ขี่จักรยาน 250-600 แคลอรี่
เล่นแบดมินตัน 350 แคลอรี่
เต้นรำ 350 แคลอรี่
เล่นโบว์ลิ่ง 400 แคลอรี่
ว่ายน้ำ 260-750 แคลอรี่
เล่นเทนนิสคู่ 360 แคลอรี่
เล่นเทนนิสเดี่ยว 480 แคลอรี่
เล่นวอลเล่ย์บอล 300 แคลอรี่
ตีกอล์ฟ, นั่งรถ 240 แคลอรี่
ตีกอล์ฟ ลากถุงกอล์ฟ 300 แคลอรี่
ตีกอล์ฟ แบกถุงกอล์ฟเอง 360 แคลอรี่
วิ่งเหยาะๆ 600-750 แคลอรี่
วิ่งเร็ว 900-1,200 แคลอรี่
เล่นสเก็ตปกติ 420 แคลอรี่
เล่นสเก็ตแข่งความเร็ว 700 แคลอรี่
บาสเก็ตบอล 360-660 แคลอรี่
ผลการวิจัยพบว่าการเดิน 10,000 ก้าวใน 1 วัน สามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 400 - 500 กิโลแคลอรี่ ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ ลดการสะสมของไขมัน ทั้งยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระดูก รวมทั้งข้อต่อต่างๆ ให้แข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
โดยปกติคนเราจะเดินเฉลี่ยวัน ละ 900 - 5,000 ก้าวต่อวันเท่านั้น ทั้งๆ ที่การเดินที่จะส่งผลดีต่อร่างกายนั้นควรอยู่ที่ 10,000 ก้าวต่อคนต่อวัน ทั้งนี้ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว ความเร็วที่เดิน การแกว่งแขน การก้าวเท้า ซึ่งผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากจะเผาผลาญพลังงานจากการเดินได้มากกว่าผู้ที่มี น้ำหนักตัวน้อย เคล็ดลับสำหรับผู้ที่ตั้งใจที่จะ เริ่มเดินให้ได้ครบ 10,000 ก้าว ควรเริ่มเดินแบบสะสม และค่อยๆ เพิ่มจำนวนก้าวเดินขึ้นเรื่อยๆ จนครบ 10,000 ก้าวต่อวันในที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้ ไม่หักโหมจนเกินไป โดยอาจใช้เครื่องนับก้าวเดินเป็นผู้ช่วยในการจำ
นอกจากนี้ความถี่ในการเดิน ยังให้ผลลัพท์ที่ต่างกัน ดังนี้
• การเดินเพื่อควบคุมน้ำหนักให้คงที่ ควรเดินเฉลี่ยวันละประมาณ 45 นาที สัปดาห์ละ 3-4 วัน
• การเดินเพื่อลดน้ำหนัก ควรเดินทุกวัน โดยการเดินสะสมครั้งละ 15 นาที วันละ 3 ครั้ง
• การเดินเพื่อฟิตกล้ามเนื้อ หรือสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ควรเดินเร็วๆ สะสมให้ได้วันละ 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน
กลุ่มเรื่อง #รักสุขภาพ