เขียนหัวข้อใหม่
 แสดงความคิดเห็น

รู้ทัน โรคภูมิแพ้

| หัวข้อในหมวดเดียวกัน | bt-50
romio (โรมิโอ)
# โพสเมื่อ 12 ธ.ค. 2555
© เนื้อหานี้ ผู้โพสสร้างสรรค์เอง ® ตอบได้เฉพาะสมาชิก
เข้าชม 3498 (1 ต่อวัน) ตอบ 4 ถูกใจ ถูกใจ 2

รู้ทัน โรคภูมิแพ้

มาทำความรู้จัก กับ โรคภูมิแพ้ กันครับ 

โรคภูมิแพ้ คือ อะไร

เกิดจากอะไร

เป็นแล้วหายไหม

ป้องกันอย่างไร

และ อีก หลายคำถาม ที่  ต้องการ คำตอบ  เราจะมา อัพเดต กัน ใน บอร์ดนี้ ครับ

มา รู้จัก และ ป้องกัน โรคภูมิแพ้ ไป พร้อม ๆ กัน 

คลับ BT-50-Ranger-รู้ทัน โรคภูมิแพ้-1
กลุ่มเรื่อง #รักสุขภาพ

ติดตาม อัพเดตข่าวสาร BT+RG คลิ้กที่นี่

สมาชิกที่เข้าชมล่าสุด

มาดูโลกหุ่นกันเถอะ ได้ทั้งขำ และความรู้  

1
pookie (ปุ๊กกี้)
# โพสเมื่อ 12 ธ.ค. 2555
® ตอบได้เฉพาะสมาชิก
ตอบ ตอบ 0 ถูกใจ ถูกใจ 1
ในปัจจุบันมีประชากรเป็นโรคภูมิแพ้กันมากขึ้น เพื่อให้สาระความรู้กับประชาชนให้มีความเข้าใจในโรคนี้ จึงได้รวบรวมจากคำถามที่คนไข้มักถามแพทย์เป็นประจำ โรคภูมิแพ้คืออะไร

โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายได้รับสารบางอย่าง และร่างกายผู้นั้นตอบสนองผิดไปจากคนทั่วไป ทำให้เกิดโรคและอาการต่าง ๆ ขึ้น เช่น คนทั่วไปที่สูดฝุ่นละอองภายในบ้าน ซึ่งมีไรฝุ่นจะไม่เกิดอาการผิดปกติ แต่ถ้าผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ สูดเอาฝุ่นละอองเข้าไปจะเกิดอาการน้ำมูกไหล คันจมูก คันตา หรือมีอาการหอบเกิดขึ้น โรคภูมิแพ้มีหลายโรค โรคภูมิแพ้มีหลายโรค เกิดขึ้นได้หลายระบบ เช่น

1. เกิดขึ้นในระบบการหายใจ มีอาการได้ตั้งแต่น้ำมูกไหล จาม คันจมูก คัดจมูก (คนทั่วไปมักเรียกโรคแพ้อากาศ) หรืออาจมีอาการรุนแรง เช่น ไอ มีเสมหะมาก มีอาการหอบ ซึ่งเป็นอาการของโรคหืด บางคนอาจเป็นทั้งโรคหืดและโรคแพ้อากาศ สาเหตุของโรคภูมิแพ้ของระบบการหายใจนี้ ส่วนมากเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ สำหรับสาเหตุที่เกิดกับคนไทยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากไรฝุ่นในบ้านเป็นสาเหตุสำคัญที่สุด รองลงมาได้แก่เศษและขี้แมลงสาบ ขนและรังแคสัตว์เลี้ยง เช่น แมว สุนัข หรือเกสรพืช หรือเชื้อราในอากาศ สำหรับในเด็กเล็ก ๆ อาหารอาจเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ของระบบการหายใจได้เช่นเดียวกัน เช่น แพ้นมวัว ไข่ เป็นต้น

2. เกิดขึ้นที่ผิวหนัง เช่น อาการลมพิษ หรือผื่นภูมิแพ้ในเด็ก หรือผื่นแพ้จากการสัมผัส สาเหตุใหญ่ของลมพิษมักเป็นอาหารและยา ส่วนผืนภูมิแพ้ในเด็กมักเกิดขึ้นเองในเด็กที่มีแนวโน้มในการเกิด เช่น มีกรรมพันธุ์ของโรคภูมิแพ้ในครอบครัว อาหาร เช่น นม ไข่ อาจทำให้เกิดอาการผื่น ซึ่งมักเกิดบริเวณแก้มเด็กเล็ก หรือข้อพับในเด็กโต

3. เกิดขึ้นในระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ อาการปวดท้อง อาเจียน ท้องร่วง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการแพ้อาหาร

4. เกิดขึ้นในหลายระบบและรุนแรง ผู้ป่วยบางรายมีอาการแพ้มาก อาจมีอาการเกิดขึ้นในทุกระบบ เช่น หอบ ลมพิษ ช็อค หรืออาจรุนแรงจนเสียชีวิตภายหลังจากกินอาหารบางชนิด เช่น กุ้ง ถั่วลิสง ฯลฯ หรือภายหลังได้รับยา เช่น เพนนิซิลลิน โรคภูมิแพ้พบมากน้อยเพียงใด ? ปัจจุบันโรคภูมิแพ้พบมากขึ้นทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย อุบัติการของโรคหืดสำหรับผู้ใหญ่ในคนไทยที่เคยสำรวจเมื่อ 20 กว่าปีก่อน พบประมาณร้อยละ 2.5 สำหรับในเด็กเมื่อ 10 ปีก่อน พบว่าเด็กในกรุงเทพมหานคร เป็นโรคหืดร้อยละ 4.2 ในปัจจุบันพบเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 13 สำหรับโรคแพ้อากาศ จากการสำรวจในผู้ใหญ่และเด็ก พบประมาณร้อยละ 20 และมีแนวโน้มจะพบสูงขึ้นในปัจจุบัน ส่วนผื่นแพ้ทางผิวหนังที่พบบ่อยในเด็ก มีอุบัติการไม่เพิ่มขึ้นมากนัก พบประมาณร้อยละ 10-15 การที่พบโรคภูมิแพ้ของระบบการหายใจเพิ่มขึ้นในประเทศไทยก็เพราะวิถีของคนไทยเปลี่ยนไป ประชากรมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อยู่กันอย่างแออัด บ้านเรือนจากเดิมที่มีลักษณะโปร่ง โล่ง มีการถ่ายเทอากาศดี เปลี่ยนไปเป็นแบบตะวันตกมากขึ้น มีเพดานเตี้ย ประดับประดาไปด้วยเครื่องเรือน ปิดหน้าต่างตลอดเวลา เปิดเครื่องปรับอากาศ ภายในห้องนอนมีพรมซึ่งมีไรฝุ่นมาก มีต้นไม้ประดับ ซึ่งมีเชื้อรา นิยมเลี้ยงสุนัข แมวในบ้าน บางคนถึงกับเอาไปนอนด้วย สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นสารก่อภูมิแพ้ทั้งสิ้น คนก็ได้แต่สูดเอาสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายตลอดเวลา ยิ่งกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิแพ้ขึ้น ปัจจุบันนี้ยังมีปัจจัยอื่นมาร่วมด้วย เช่น มลพิษในอากาศ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกซด์ ฝุ่นละอองตามถนน ควันจากท่อรถยนต์ และจากโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีควันบุหรี่ การติดเชื้อ เป็นต้น ล้วนเป็นปัจจัยทำให้อุบัติการของโรคภูมิแพ้ในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น โรคภูมิแพ้มีสาเหตุจากอะไร ? สาเหตุที่สำคัญมีอยู่ 2 ประการ 1. กรรมพันธุ์ โรคภูมิแพ้หลายโรคจะเกิดขึ้นได้ง่าย ถ้ามีพันธุกรรม เช่น โรคหืด โรคแพ้อากาศ และผื่นภูมิแพ้ในเด็ก ยิ่งถ้ามีประวัติว่าทั้งพ่อและแม่เป็น จะยิ่งมีโอกาสมากกว่าพ่อหรือแม่เป็นฝ่ายเดียว โรคภูมิแพ้บางอย่าง สาเหตุจากพันธุกรรมไม่ค่อยเป็นปัจจัยสำคัญมากนัก เช่น ลมพิษ แพ้อาหาร แพ้ยา หรือแพ้จากการสัมผัส เช่น แพ้เครื่องประดับ แพ้เครื่องสำอาง เป็นต้น 2. สิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยสำคัญมาก เพราะสารก่อภูมิแพ้ที่จะเข้าร่างกายเราเกิดจากสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น ไม่ว่าสารก่อภูมิแพ้ที่เข้าร่างกายโดยการหายใจ หรือจากการรับประทาน หรือจากการสัมผัส สารก่อภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ง่าย เช่น อาหาร หลังจากการรับประทานอาหารทะเล อาจเป็นลมพิษภายในเวลาครึ่งชั่วโมง หรือกินยาแล้วมีผื่นขึ้น ผู้ป่วยกวาดบ้าน เล่นกับแมว หรือสุนัขแล้วเกิดอาการจาม คัดจมูกหรือหอบ สารก่อภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ยาก เพราะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น เกสรหรือเชื้อราในอากาศ หรือไรฝุ่นในบ้าน ซึ่งมีมากตามที่นอน หมอน โซฟา ห้องรับแขก พรม ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้นหรือมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น อากาศหนาว อากาศเปลี่ยน มลพิษในอากาศจากควันรถ ควันโรงงานอุตสาหกรรม ฝุ่นละอองตามท้องถนน ภายในบ้านหรือในสำนักงาน ก็มีควันบุหรี่เป็นตัวการสำคัญ มีอาการอย่างไร จึงสงสัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้แสดงอาการได้หลายระบบ เช่น - ระบบการหายใจ ตั้งแต่จาม คันจมูก น้ำมูกไหล คัดจมูก คันตา คันคอ หรือไอเรื้อรัง มีเสมหะ มีอาการหอบเหนื่อย หายใจเสียงดังวี๊ด ๆ อาการดังกล่าวอาจเป็น ๆ หาย ๆ อาจมีอาการเป็นตามฤดูกาล หรือเป็นเกือบตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสาเหตุ - ระบบผิวหนัง อาจแสดงเป็นลมพิษ ผื่นคันตามข้อพับ ในเด็กเล็กอาจมีผื่นแดงบริเวณแก้ม - ระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่คลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง ปวดท้อง - แสดงอาการทุกระบบ ในคนไข้แพ้มาก อาจมีอาการทั้งหอบ หายใจลำบาก ลมพิษขึ้น ช็อค หรืออาจเสียชีวิต
โบราณ (จุก)
# โพสเมื่อ 13 ธ.ค. 2555
® ตอบได้เฉพาะสมาชิก
ตอบ ตอบ 2 ถูกใจ ถูกใจ 1
โรคภมูิูแพ้เป็นแล้วหน้ารำคาญมากจากประสพการณ์ตรงครับ ผมเป็นโรคนี้อยู่+หืด+หอบ ถ้าปล่อยไว้นานๆจะรื้อรังครับผมมีอาการดังนี้ครับ เวลากลางคืนเข้าห้องแอร์อากาศเย็นๆจะมีน้ำมุกไหลมากครับนอนไอมีเสมหะติดในลำคอเป็นจำนวนมากทำให้เกิดอาการไอจนเจ็บซี่โครงด้านขวามือทรมานมากทุกวันนี้ไปหาหมอตรวจอาการบอกเป็นโรคภมูิแพ้ควรงดบุหรี่หลีกเหลี่ยงฝุ่นละออง ได้รับคำแนะนำจากน้าโรแล้วได้ประโยชน์มากครับอยากให้ข้อมูลความรู้ดีๆแบบนี้ข่าวสารดีๆสาระดีๆอยู่คู่กันไปกับเว้ปแห่งนี้ เพื่อสุขภาพ อนามัยของเพื่อนๆสมาชิกครับ

potuy (แว่น)
# โพสเมื่อ 14 ธ.ค. 2555
ถูกใจ ถูกใจ 1
ผมก้อเป็นเหมือนกันเลยน้าจุกตอนนี้เลิกบุหรี่แล้สแต่ยังไม่หายถ้าตอนกินเหล้าใส่น้ำแข็งเยอะหรือเบียร์ใส่น้ำแข็งเยอะๆสักพักจะหายใจไม่ออกมันแน่นจะจมูก เลิกยากจังไอ้โรคนี้หรือว่าเหล้าหว่า
โบราณ (จุก)
# โพสเมื่อ 14 ธ.ค. 2555
ถูกใจ ถูกใจ 0
[ถึง potuy] ดีครับที่เลิกบุหรี่ได้ผมตอนนี้ยังเลยครับอาการหนักกว่าน้าเลยละต้องพ่นยาช่วยไม่งั้นหายใจไม่ออกตายแน่ครับกินยาขนาดหลอดลมด้วย
pookie (ปุ๊กกี้)
# โพสเมื่อ 13 ธ.ค. 2555
® ตอบได้เฉพาะสมาชิก
ตอบ ตอบ 0 ถูกใจ ถูกใจ 1
โรคภูมิแพ้ ดูแลดี ก็หายได้
คลับ BT-50-Ranger-รู้ทัน โรคภูมิแพ้-5
โดย : นพ.กฤษดา ศิรามพุช ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ

    เดี๋ยวนี้บรรดาสิ่งรอบตัวล้วนดูไม่แข็งแรงแน่นอนกันไปหมด ไม่ว่าจะปลากระป๋องต้องคืน หรืออากาศที่หนาวไม่ลืมหูลืมตาไม่น่าเกิดขึ้น

    เลยทำให้บรรดาผู้คนน้อยใหญ่ป่วยไข้หายใจฟืดฟาดมีแต่เสียงน้ำมูกดังประสานโดยทั่วกัน และเมื่อแน่นมากทนไม่ไหวไปหาคุณหมอบางท่านก็บอกว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาบ้างหรือเป็นภูมิแพ้บ้าง 

    

อย่างหลังพบบ่อยที่สุดเวลาที่เป็นหวัดประเภท “ดื้อด้าน” รักษาเท่าไรไม่หายสักที บางครั้งอาการแน่นจมูกมีน้ำมูกที่ดูเป็นเรื่องธรรมดาอาจนำพาโรคร้ายมาหาอย่างที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นได้ โดยเฉพาะโรคภูมิคุ้มกันไวเกินหรือที่เรียกขานกันทั่วไปว่า “ภูมิแพ้”

    โรคภูมิแพ้ถูกจัดอยู่ใน “ถังขยะ”ของแพทย์มานานนม แถมเป็น “ถังขยะใบใหญ่” เสียด้วย เป็นต้นว่าถ้ามีน้ำมูกใสไหลตอนเช้าก็มักถูกพิพากษาว่าน่าจะแพ้ หรือแค่ไอค็อกแค็กคันคอรอชวนป๋วยไม่ไหวก็ว่าน่าจะภูมิแพ้ลงคอ เรื่อยไปจนถึงคันจมูกคันตายุบยิบแน่นจมูกขี้มูกไหลไม่หายก็ว่าเป็นภูมิแพ้

    ไม่ใช่แค่เพียงระบบหายใจเท่านั้น หากแต่ลามไปถึงผิวหนังทั้งกายด้วยว่า ถ้าหากมีผื่นคันขึ้นมาหาสาเหตุไม่ได้ก็โทษผู้ร้ายที่พูดไม่ได้ชื่อว่า “ภูมิแพ้” เอาไว้ก่อน นี่จึงเป็นเหตุให้ผมขออนุญาตเลือกเรื่องนี้เข้ามาคุยกันวันนี้ครับ

   เรื่องมันมีอยู่ว่า ...

    หนุ่มน้อยรายหนึ่งมาหาด้วยสีหน้าวิตกกังวล มาขอคำปรึกษาว่าเขาเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ ดูน่าทอดอาลัยไร้หวัง พอฟังไปฟังมาเขาถึงเฉลยว่าเป็นภูมิแพ้เพราะมีอาการแน่นจมูกถึงขนาดนอนไม่ได้ สูดหายใจไม่ได้กลิ่น มีอาการไอค็อกแค็กไม่หายเสียทีมานานวัน เปิดอินเตอร์เน็ทหาข้อมูลดูก็ล้วนแต่บอกว่ารักษาไม่หายทั้งนั้น ยิ่งอ่านยิ่งท้อใจ



คลับ BT-50-Ranger-รู้ทัน โรคภูมิแพ้-6
 1) เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบจากเชื้อหวัดธรรมดา

2) ริดสีดวงจมูก ลักษณะเป็นก้อนเนื้องอกใสคล้ายเนื้อลำไย

3) โพรงไซนัสอักเสบเฉียบพลัน

4) มะเร็งหลังโพรงจมูก


ยังมีอีกมากมายครับ จะเห็นว่าโอกาสเป็นได้ตั้งแต่โรคจิ๊บๆ อย่างหวัดธรรมดาไปจนถึงโรค “ขั้นเทพ” อย่างมะเร็งเลยทีเดียวซึ่งจะมีอาการคัดจมูกชอบสั่งน้ำมูกแต่สั่งเท่าไรก็ไม่ออกเสียทีเพราะมันคือก้อนมะเร็งที่คัดอยู่ข้างในต่อให้สั่งจนขนจมูกร่วงก็ไม่มีน้ำมูกออกมาให้ยล

    สำหรับหนุ่มน้อยรายนี้พอจับมาส่องโพรงจมูกดูก็ปรากฏว่า ที่จริงแล้วเขาเป็นก้อนริดสีดวงจมูกหนึ่งยวงเลยทำให้แน่นจมูก และ “จมูกบอด” อดได้กลิ่นอาหารพาลกินไม่อร่อย พอรู้ตัวผู้ร้ายอย่างนี้แล้วคนไข้ก็มีกำลังใจขึ้นเยอะเหมือนความลับถูกคลี่คลายหมอดูทายแม่นก็มีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง เลยแนะนำให้ไปออกกำลังกายโดยการวิ่งอย่างน้อยวันละ 30 นาที ถี่สักสี่ครั้งต่อสัปดาห์

    มีข้อแม้อย่างประการเดียว คืออย่าไปว่ายน้ำเพราะจะยิ่งทำให้แน่นจมูกเหมือนถูกผูกอีก และนอกจากนั้นก็ขอให้เลี่ยงการใช้ยาพ่นนานาพันธุ์สรรหาเข้าสู่รูจมูกเพราะส่วนใหญ่เป็น “สเตียรอยด์” ซึ่งจะคอยไปเป็นปุ๋ยเร่งให้ก้อนริดสีดวงงามขึ้นจนส่งเข้าประกวดได้ แล้วก็แถมด้วยแนะนำว่าให้หาวิตามินซีมากินสักวันละพันถึงสองพันมิลลิกรัม และถ้าขี้เกียจกินก็ใช้เป็นกินฝรั่งกลมสาลี่สักวันละครึ่งกิโลก็ได้ไม่ยากเย็น

    ที่สำคัญคือต้องให้ไปหาหมอหูคอจมูกให้ท่านค่อยๆทำคลอดเอาเจ้าก้อนเนื้อลำไยในจมูกออกเสีย โดยสรุปการรักษาอาการที่สงสัยไม่แน่ใจว่าจะเป็นภูมิแพ้ด้วยตัวท่านเองแบบไม่ต้องกลัวเสี่ยงจากผลข้างเคียงนั้นก็มี

1) ออกกำลังกายให้ได้วันละ 30 นาทีอย่างน้อย 4 ครั้งต่ออาทิตย์

2) เลี่ยงใช้สเตียรอยด์พ่นจมูกบ่อยจนเกินจำเป็น เพราะตอนแรกมักจะดีแต่ต่อไปอาจแย่หนักเรียกว่าโยโย่กลับมาแน่นทรมานกว่าเดิม

3) เติมวิตามินซีสักวันละหนึ่งถึงสองเม็ดใหญ่ ไม่งั้นก็กินผักเขียวอย่างบร็อคโคลีและฝรั่งให้มากขึ้น และควรกินทุกวัน

4) อย่าหาเรื่องไปว่ายน้ำหรือเล่นน้ำเย็นจัดนานๆ เพราะจะพาลทำให้แน่นขึ้นหรือหนักหน่อยก็กลายเป็นโพรงหนองในไซนัสกำจัดยากเป็นที่สุด

    อุทหรณ์เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าเพิ่งเชื่อทางอินเตอร์เน็ทเสียทีเดียว แล้วท่านก็จะรู้ว่ายังมีโรคอีกมาก ที่คล้ายกันกับโรคที่เรามักคิดไกลไปถึงก่อนแล้วก็ตีขลุมไปว่าน่าจะเข้าขั้นตรีทูตหมดกำลังใจไปรักษา อย่างหนุ่มแน่นจมูกรายนี้ต่อมาก็หายดีไม่มีแน่นจมูกอีกแถมเรื่องภูมิแพ้ยังไม่ต้องพูดถึง เพราะแค่หวัดยังไม่ค่อยเป็นเลย

    เห็นไหมครับจากเดิมที่เคยหมดหวังนั่งทุกข์ว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หายอย่างภูมิแพ้และโทษชะตาชีวิตว่ามาเกิดกับเรา พอเอาเข้าจริงแล้วไม่ได้เลวร้ายอย่างนั้น ขอเพียงให้เรามีกำลังใจและดูให้แน่ว่าไม่ได้เผลอไปตัดสินชีวิตคิดสั้นปิดกั้นความหวังฝังตัวเองลงสู่ “ถังขยะใบใหญ่แห่งวงการสุขภาพ” เข้า ก็เท่านั้นเองครับ ที่มาบทความ : กรุงเทพธุรกิจ
pookie (ปุ๊กกี้)
# โพสเมื่อ 15 ธ.ค. 2555
® ตอบได้เฉพาะสมาชิก
ตอบ ตอบ 0 ถูกใจ ถูกใจ 0
วิธีป้องกัน และรักษา

นอกจากการใช้ยา หรือวิตามิน อาหารเสริมเช่นถั่งเช่าแล้ว การออกกำลังกายจัดเป็นยาวิเศษขนานหนึ่งที่ช่วยให้อาการภูมิแพ้หอบหืด ทุเลาลงอย่างมาก หลายๆคนคงเคยได้ยินว่าเด็กที่เป็นภูมิแพ้ หอบหืดบ่อยๆ พอเล่นกีฬาออกกำลังกายตั้งแต่ยังเด็ก โตขึ้นมาสามารถหายขาดจากภาวะภูมิแพ้ได้เลยทีเดียว ที่เป็นเช่นนี้ เพราะการออกกำลังกายทำให้สุขภาพโดยรวมดีและแข็งแรงขึ้น ซึ่งหมายรวมถึงการปรับสมดุลย์ของระบบภูมิคุ้มกันที่เป็นตัวต้นเหตุของโรคภูมิแพ้ แต่ถ้าผู้ป่วยมีโรคหอบหืดด้วยอาจต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าออกกำลังกายหนักหรือหักโหมมากเกินไปอาจทำให้อาการกำเริบจนเกิดอันตราย

การออกกำัลังกายเพื่อช่วยในโรคภูมิแพ้นั้น ต้องทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องทำมากหรือหนักเกินไป เน้นที่ความสม่ำเสมอ แล้วร่างกายจะฟื้นฟูตัวเอง ให้สามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือทนต่อสารก่อภูมิแพ้ได้ดีขึ้นเอง เมื่อโรคภูมิแพ้หายไป ย่อมทำให้โรคอื่นๆที่เกี่ยวข้องทุเลาลงด้วย เช่นหอบหืดกำเริบน้อยลง ไซนัสอักเสบ ก็จะเกิดน้อยลง นอกจากนั้นการได้ออกแรงอย่างสม่ำเสมอเป็นการเพิ่มเสริมสมรรถภาพการทำงานของปอด ทำให้แม้จะมีอาการภูมิแพ้ หอบหืดเกิดขึ้น ก็จะมีอาการเบาลงแน่นอน

1

แสดงความคิดเห็น



แสดงความคิดเห็นเหรอ
ลงชื่อเข้าใช้หน่อยจ้า ด้วย Facebook ก็ได้ ง่ายๆเอง





Home